การที่ลีก League of Legends อเมริกาเหนือ (NA LCS) ที่เปลี่ยนรูปแบบการบริหารไปในแนวของการเป็นมืออาชีพมากขึ้นในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเหนือกว่าลีกอื่นๆ ของ LoL อย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องจากลีก NA มีมาตรฐานเหนือกว่าลีกอื่น ทั้งการกำหนดเพดานค่าเหนื่อยนักกีฬา มีการแบ่งผลประโยชน์ให้ทุกทีม แม้ฝีมือของทีม NA จะสู้ทีมเกาหลีใต้ไม่ค่อยได้ แต่นั่นก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า การบริหารที่ดีช่วยให้ Franchise ของ Riot ประสบความสำเร็จได้มากกว่าอยู่ดี ตัวอย่างหนึ่งคือ รายได้ของ นักกีฬา LoL ของอเมริกาเหนือในปีนี้ที่เฉลี่ยแล้วมากถึง 8.3 แสนบาท/คน/เดือน ขณะที่ทางฝั่งเกาหลีใต้และยุโรปมีรายรับต่อคน/เดือนที่ 2.3 และ 2 แสนบาท ตามลำดับ
เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้บริหาร Riot สาขายุโรปจึงได้ร่วมมือกับเหล่าผู้บริหารของทีม EU เดินหน้า “คิดใหม่ ทำใหม่” ปรับรูปแบบลีกของตนเองให้เป็นไปในรูปโมเดลเดียวกับ NA LCS ผลที่ตามมาคือ การแบ่งเม็ดเงินรายได้จำนวนมหาศาลจากลิขสิทธิ์และโฆษณาจากการถ่ายทอดสดให้แก่ทุกทีม ขณะเดียวกันเงินค่าแรงขั้นต่ำของนักกีฬาก็จะถูกยกระดับจากเดิมเดือนละประมาณ 87,500 บาท เป็น 210,000 บาท ในปีหน้า
แต่ทั้งหมดต้องแลกมาด้วยค่าสมาชิกแรกเข้า 250 ล้านบาทสำหรับทีมเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ร่วมเล่นในลีก และ 330 ล้านบาทสำหรับทีมหน้าใหม่ที่ต้องการเข้าร่วม EU LCS ในปีหน้า
Marc Schnell ผู้จัดการอีสปอร์ตประจำภูมิภาคยุโรป Riot Games กล่าวว่า “สิ่งที่แตกต่างระหว่างลีกยุโรปและลีกในทวีปอื่นๆ คือ ยุโรปประกอบไปด้วยการรวมตัวของประเทศที่แตกต่างกัน ทั้งขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และภาษา ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราต้องเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด”
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า มีการกำหนดหรือไม่ว่าผู้ลงทุนต้องอยู่ในทวีปยุโรป Mr. Schnell ตอบว่า “ไม่จำเป็น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราคือ คุณจะเข้ามาสร้างอะไรให้กับลีก และทีมของคุณจะดึงดูดผู้ชมในยุโรปอย่างไร”
ผู้จัดการยุโรปได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปีหน้ารายได้ของเงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและค่าโฆษณาที่ Riot ทำได้จะถูกหั่นแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ดังนี้
- 35% ให้แต่ละทีมเอาไปจ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่น
- 32.5% แบ่งให้แต่ทีมตามผลงานการแข่งขัน (น่าจะเป็นทีมใดมีอันดับดีกว่าจะได้เงินมากกว่า)
- 35.5% ชักกลับเข้า Riot (ให้เหตุผลว่าเป็นค่าจัดงานต่างๆ)
นอกเหนือจาก LoL แล้ว ทาง Honor of King หรือ RoV จีน ก็ได้นำระบบลีกที่ประสบความสำเร็จของ NA LCS ไปปรับใช้กับลีก KPL ของตนเอง แต่เพิ่มเงินรางวัลอัดฉีดในแต่ละ Split เป็น 60 ล้านบาท!
สุดท้ายวกกลับมาที่วงการอีสปอร์ตไทยรูปแบบของลีกที่คล้ายกันเห็นจะเป็นของ Garena ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด แม้การสร้างลีกการแข่งจะต้องสู้กับแรงต่อต้านจากกลุ่มแฟนๆ อีสปอร์ตไทยที่จะไม่ค่อยยอมรับเกมโมบ้าบนมือถือของพวกเขาเท่าไร
แต่ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่น่าจะทำให้ทุกคนเรียนรู้และยอมรับได้แล้วว่า “ระบบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง”