Mordekaiser ถือเป็นหนึ่งในตัวละครรุ่นยุคเก่าตัวสุดท้ายที่แฟนๆ League of Legends หลายคนเรียกร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้มันจะมีเสน่ห์และเอกลักษณ์การออกแบบจากยุคเก่าของ Riot Games แต่ยังไงพอโลกก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ผู้เล่นหลายคน (รวมถึงผู้พัฒนา) ก็เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาแล้วล่ะที่นักรบทมิฬควรจะได้รับการปรับเปลี่ยนรูปโฉมและแนวทางการเล่นใหม่เสียที
ภายหลังจากการประกาศกร้าวของ Riot ว่าจะรีเวิร์ค Mordekaiser ให้ออกมาดูดีและสร้างแนวทางการเล่นใหม่ๆ ให้ LoL ในที่สุด เมื่อไม่กี่ ชม. ก่อน ผู้พัฒนาก็ออกมาให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการแล้วว่า อัศวินดำตัวนี้จะมีความสามารถอย่างไร
Passive – Darkness Rise
การโจมตีปกติของ Mordekaiser จะทำความเสียหายโบนัสเวทมนตร์เพิ่มเติม และหลังจากใช้เวทย์หรือโจมตีศัตรูไป 3 ครั้ง Darkness Rise จะทำความเสียหายศัตรูโดยรอบ และทำให้เขาเคลื่อนที่เร็วขึ้น จนกว่าจะออกจากการต่อสู้
Q – Obliterate
Mordekaiser ฟาดกระบองลงพื้นทำความเสียหายเป็น AOE หรือความเสียหายเดี่ยวก็ได้
W – Indestructible
Modekaiser จะดูดซับความเสียหายที่เขาโดนและที่เขาทำได้เอาไว้ 25% เมื่อกดใช้ครั้งแรกเขาจะเอาความเสียหายที่สะสมไว้มาสร้างโล่ให้ตัวเอง แล้วถ้ากดอีกครั้งเขาจะเอาค่าพลัง 50% ของโล่กลับมาเป็นพลังชีวิต
E – Death’s Grasp
Passive: Mordekaiser ได้รับค่าเจาะเกราะเวท 25%
Active: ส่งกรงเล็บไปลากศัตรูมาหาเขา
R – Realm of Death
Mordekaiser ลากศัตรูเข้าสู่ภพมรณะ ที่ที่เขาและศัตรูจะได้ดวลกัน 1 ต่อ 1 เป็นเวลา 7 วินาที ในช่วงนี้ เขาจะขโมยค่า stat ของศัตรูมาบางส่วน แล้วถ้าเขาเอาชนะศัตรูได้ เขาจะกลืนกินวิญญาณศัตรู แล้วเก็บค่า stat ที่ได้ไว้จนกว่าศัตรูจะเกิดใหม่
เมื่อพิจารณาจากรูปแบบของสกิลตามที่ถูกเปิดเผยงานนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า Mordekaiser น่าจะเป็นตัวป่วนที่คอยดักตบแชมเปี้ยนสายซับพอร์ต หรือแม้แต่ ADC ที่เกลียดการชนกับฝ่ายตรงข้ามแบบตรงๆ (แถมนักรบคนนี้ยังมีทั้งสกิลสายเบิร์สและโล่ที่คอยตัดความเสียหายลงได้อีกระดับ) หลังจากนี้เราคงต้องจับตาดูต่อไปว่า สกิลไม้ตายจะมีเงื่อนไขความยากง่ายเวลาใช้จริงมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่เห็นตอนนี้การรีเวิร์ค Mordekaiser น่าจะส่งผลต่อ META ของเกมไม่น้อยไปกว่า Akali (นินจาสาวที่เพิ่งถูกรีเวิร์คไปก่อนหน้านี้) เท่าไร
ใครที่อยากเห็นโมเดลของตัวละครแบบเต็มๆ เกมเพลย์เล็กน้อย และแรงบันดาลใจในการออกแบบตัวละครนี้ สามารถเข้าไปดูวิดีโอจาก Riot ได้ด้านล่าง