ย้อนกลับไปในช่วงเวลาปลายปี 2017 ถึง ต้นปี 2018 ซึ่งเป็น ช่วงเวลาที่ ‘Overwatch’ เกมยิงจ่ายค่าย Blizzard เดินหน้าโกยรายได้ และ กวาดรางวัลความสำเร็จมากมาย..

พ่อมดน้ำแข็ง ได้ประกาศข่าวใหญ่สะเทือนวงการอีสปอร์ต โดยเปิดตัว “Overwatch League” ลีกการแข่งขันเกมในประเภทเฟรนไชส์ ที่มีไอเดียก้าวไปไกลกว่าลีกอีสปอร์ตรุ่นพี่ ไม่ต้องแข่งเพื่อคัดตัวแทนจะแต่ละภูมิภาค หากแต่จะเป็นลีก Global แข่งขันกันแบบรวมทั้งโลกในรูปแบบ Offline

สรุปง่ายๆ แต่ละทีมจะต้องมีสนามของตัวเอง แถมมีเกมเหย้า-เยือน ต้องบินข้ามประเทศเพื่อแข่งกันในลีก เช่น ถ้าเป็นทีมสหรัฐฯ จะไปเยือนทีมจาก เกาหลีใต้ ก็ต้องบินไปเกาหลี เพื่อลงแข่ง

แถมช่วงแรกมีข่าวว่า เก็บค่าเรียกเข้าจอง Slot สูงถึง $25 ล้าน เลยทีเดียวทว่า ด้วยกระแสความนิยมของเกมที่เริ่มดรอป บวกกับการระบาดของโรคร้าย ตลอดจนข้อกำหนดต่างๆ ที่ทำในโลกแห่งความเป็นจริงยากเกินไป (บางทีมลงทุนสร้างสนาม แต่สุดท้าย ก็กลับมาแข่งแบบสนามกลางที่เดียว เหมือนลีกอื่นๆ อยู่ดี) ส่งผลให้ Overwatch League ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 เลยไปไม่ถึงฝั่งฝัน..

6 ปีผ่านปี หลังจบทัวร์ 2023 เหมือนจะเป็นบทสรุปของ ลีกที่ทะเยอทะยานที่สุดอย่าง(ไม่)เป็นทางการ Overwatch League บอกลาแฟนๆ และตั้งเป้าว่า ปีหน้า Blizzard ผู้ให้บริการเกมจะไม่ลงมาทำเอง แต่จะให้ผู้จัดที่สนใจ เข้ามาจัดแข่งแทน พร้อมคืนเงินค่า Slot ให้แก่ทีมที่ไม่อยากไปต่อแล้วด้วยจะว่าไป

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงลืมไปแล้วว่า ลีกนี้เคยเป็นที่สนใจขนาดไหน!?